กระจกภูเขาไฟ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Obsidian เป็นวัสดุที่เกิดจากการระบายตัวอย่างรวดเร็วของลาวาซึ่งมีเนื้อหาซิลิกาสูง กระบวนการนี้ทำให้โมเลกุลของแร่ธาตุไม่มีเวลาที่จะจัดเรียงตัวเป็นโครงสร้างผลึก จึงทำให้เกิดเนื้อสัมผัสที่เป็นแก้ว ขัดเงา และมักจะมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม
obsidian เป็นวัสดุที่หาได้ทั่วไปในพื้นที่ภูเขาไฟที่ยังใช้งานอยู่ เช่น ภูเขาไฟ Mount St. Helens ในสหรัฐอเมริกา และ Gunung Merapi ในอินโดนีเซีย มีความแข็งและทนทานสูง ทำให้เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
คุณสมบัติของ Obsidian: มองลึกเข้าไปในแก้วแห่งภูเขาไฟ
คุณสมบัติ | ค่า |
---|---|
ความแข็ง (ตามมาตรฐาน Mohs) | 5-6 |
ความหนาแน่น | 2.4-2.6 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร |
อุณหภูมิหลอมละลาย | ประมาณ 1000°C |
ทัศนวิสัย | 투명 |
โครงสร้าง | แก้วไม่มีโครงสร้างผลึก |
การนำ Obsidian ไปใช้งาน: มากกว่าแค่ความสวยงาม
กระจกภูเขาไฟสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งในอุตสาหกรรมและศิลปะ
-
เครื่องมือตัดและขัด: ความแข็งของ obsidian ทำให้เหมาะสำหรับการทำเครื่องมือคมมาก เช่น มีด ขวาน และลูกศร ซึ่งมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เคยใช้กันมาอย่างแพร่หลาย
-
วัสดุตกแต่ง: Obsidian ที่ถูกขัดเงาให้เรียบลื่น สามารถนำไปใช้ในการตกแต่งบ้านและอาคาร เช่น เป็นกระเบื้องผนัง ท็อปโต๊ะ และอ่างล้างหน้า
-
เครื่องประดับ: Obsidian มักถูกแกะสลักเป็นรูปทรงต่าง ๆ และขัดเงาให้สวยงาม เพื่อทำเป็นสร้อยคอ แหวน และตุ้มหู
-
วิทยาศาสตร์: Obsidian ถูกนำไปใช้ในวิทยาศาสตร์เพื่อศึกษาวิธีการระบายตัวของลาวาและประวัติของภูเขาไฟ
-
การแพทย์: ในสมัยก่อน obsidian ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคข้ออักเสบ และโรคผิวหนัง
การผลิต Obsidian: จากใจกลางภูเขาไฟสู่มืองคน
กระจกภูเขาไฟเป็นวัสดุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็สามารถผ่านการแปรรูปเพื่อเพิ่มคุณค่าและความสวยงามได้ กระบวนการผลิต obsidian มักเกี่ยวข้องกับ:
-
การขุด: Obsidian จะถูกขุดจากเหมืองที่ตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาไฟ
-
การตัดและขัด: Obsidian จะถูกตัดเป็นชิ้นส่วนตามขนาดที่ต้องการ และผ่านกระบวนการขัดเพื่อให้เรียบลื่นและแวววาว
-
การแกะสลัก: Obsidian สามารถถูกแกะสลักเป็นรูปทรงต่าง ๆ เพื่อทำเป็นเครื่องประดับหรือของตกแต่ง
-
การเคลือบ: Obsidian อาจถูกเคลือบด้วยสารพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และความสวยงาม
บทสรุป: Obsidian - ของขวัญจากธรรมชาติสู่มนุษยโลก
Obsidian เป็นวัสดุที่น่าสนใจและมีประโยชน์มากมาย ทั้งในแง่ของความสวยงาม ความทนทาน และคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์
จากเครื่องมือยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไปจนถึงเครื่องประดับสมัยใหม่ Obsidian ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเข้ากับความต้องการของมนุษย์มาอย่างยาวนาน และน่าจะเป็นวัสดุที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคต